ยานฮายาบูสะ-2 ของญี่ปุ่นลงจอดบนดาวเคราะห์ได้สำเร็จและกำลังเตรียมพร้อมสำหรับปฎิบัติการขั้นต่อไป!

ยานฮายาบูสะ-2 ของญี่ปุ่นลงจอดบนดาวเคราะห์ได้สำเร็จและกำลังเตรียมพร้อมสำหรับปฎิบัติการขั้นต่อไป!

ยานสำรวจอวกาศแบบไร้คนขับของญี่ปุ่นที่มีชื่อว่าฮายาบูสะ-2 ได้พยายามหยิบเอาตัวอย่างจากผิวดาวเคราะห์น้อยที่มีชื่อว่า 'เรียวกุ' (Ryugu) หลังจากแล่นลงจอดได้เป็นผลสำเร็จเมื่อเวลา 23.00 น.ของเมื่อคืนวานนี้ (21 Feb 2019)

ทั้งนี้ยานสำรวจฮายาบุสะ-2 ได้มาถึงดาวเคราะห์เรียวกุตั้งแต่เดือนมิถุนายนของปีที่แล้ว (2018) หรือคิดเป็นระยะเวลาที่ยานได้เดินทางออกมาจากโลกจนกระทั่งมาถึงดาวเคราะห์เรียวบุเมื่อคืนวานนี้ก็อยู่ที่ประมาณสามปีครึ่งเอง..ว้าว!

และนักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่นต่างก็คาดหมายว่าเจ้ายานฮายาบุสะ-2 นี้ จะสามารถเดินทางกลับถึงโลกได้อีกครั้งหลังจากที่ได้ทำการเก็บตัวอย่างหินต่างๆบนดาวเคราะห์เรียวบุได้สำเร็จก็น่าจะเป็นราวปี 2020 โน่นเลย

"เราได้ส่งยานร่อนลงจอดบนผิวของดาวเคราะห์ได้เป็นผลสำเร็จและเราก็ยังได้ยิงกระสุนลงบนผิวดาวเคราะห์นั้นอีกด้วย" ยูอิชิ ซูด่ะ ผู้จัดการโครงการฮายาบูสะ-2 กล่าวด้วยความภาคภูมิใจในผลงาน

ทั้งนี้กระสุนที่มีน้ำหนักขนาด 5 กรัมที่สร้างจากวัสดุไททาลัมได้ถูกยิงลงมาจากท้องยานฮายาบูสะ-2 ก่อนที่จะยานจะแล่นลงจอดบนผิวดาวเคราะห์ ด้วยความเร็วกระสุนที่ 300 เมตรต่อวินาทีเพื่อให้กระสุนกระแทกเข้ากับผิวของดาวเคราะห์จนเกิดเป็นสะเก็ดหินกระดอนเด้งกลับขึ้นมาใกล้ยานแล้วยานก็จะใช้งวงพิเศษที่เรียกว่า sampler horn คอยดักจับเจ้าสะเก็ดหินเหล่านั้นอีกที!

ส่วนเจ้าดาวเคราะห์เรียวกุนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของหินอวกาศที่มีอยู่ดั้งเดิมมานานแล้วและก็เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นหินชนิด C-type ซึ่งเป็นชนิดของดาวเคราะห์ที่อยู่ใกล้โลก (The near-Earth asteroid หรือ NEA) ซึ่งเจ้า NEA นี้ก็คือส่วนที่ยังคงเหลืออยู่หลังจากการบังเกิดขึ้นครั้งแรกของระบบสุริยะจักรวาลเลยทีเดียว..ว้าว!

"ภายหลังจากปฎิบัติการ The Rosetta mission นั้น เราก็ได้ข้อสรุปว่าในช่วงกำเนิดสุริยะจักรวาลนั้น น้ำบนโลกโดยส่วนใหญ่แล้วไม่ได้มาจากดาวหาง (comets) แต่อย่างใด เราเชื่อว่าดาวเคราะห์ประเภท C-type นั้นมันจะกักเก็บปริมาณน้ำไว้ในปริมาณที่มากโดยมันจะเก็บขังเอาไว้ภายในหินชั้นในของมันเองและมันก็เป็นไปได้ที่เจ้าดาวเคราะห์ C-type ชนิดนี้จะนำเอาน้ำและก็อินทรีย์สารอื่นๆที่จำเป็นต่อการสร้างชีวิตใหม่มากับตัวมันอีกด้วย" ศาสตราจารย์ Alan Fitzsimmons จากมหาวิทยาลัย Queen's University Belfast ได้บอกกับทีมงาน BBC News 

Credit : https://www.bbc.com/news/science-environment-47293317

ติดตามทางบล็อค
https://digitalarticlewow.blogspot.com/2019/01/

ติดตามทางเฟสบุ้ค
https://m.facebook.com/DigitalArtWOW/

#ดิจิทัลอาร์ตว้าว 
#ดิจิทัลอาร์ทิเคิลว้าว 
#DigitalArtWOW 
#DigitalArticleWOW
#คุยข่าวทันโลกดิจิทัล

หรือติดตามทางไลน์สแควร์ ‘คุยข่าวทันโลกดิจิทัล’ ไลน์สแควร์ที่แชทคุยแลกเปลี่ยนความรู้ทางโลกไอทีกันทุกวัน ไร้วันหยุด สนุกจริงๆ
‭https://line.me/ti/g2/5XEjGt21Fo4ojjo9OOEHpARxq5OGDApA51DAfLbOOjREY6otKlRQHHPJo5-pnZCs
(หรือพิมพ์คำว่า ‘คุยข่าวทันโลกดิจิทัล’ ที่ช่องค้นหาก็ได้ครับ)